ขอความเป็นธรรมคดี #เด็ก16ผ่าไฟแดงชนคนตาย

ขอความเป็นธรรมคดี #เด็ก16ผ่าไฟแดงชนคนตาย
ทำไมแคมเปญรณรงค์นี้ถึงมีความสำคัญ

“เยาวชน 16 ซิ่งรถบีเอ็มผ่าไฟแดง ชนบัณฑิตเสียชีวิต” เป็นอีกข่าวที่ทำให้สังคมลุกขึ้นมาตั้งคำถาม จับตาว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไงแน่ เพราะบรรทัดฐานสังคมจากคดีลูกครอบครัวคนรวยที่ขับรถชนคนตายในประเทศนี้ ดูเหมือนจะมี ‘ผู้มีอำนาจช่วยให้รอด’ อยู่เรื่อยไป อย่างคดีดังก่อนหน้านี้ ทั้งลูกหลานเครื่องดื่มชูกำลังที่สุดท้ายนั่งเจ็ทส่วนตัวหนีไปนอกประเทศจนคดีกำลังจะหมดอายุความ และเรื่องสาวขับซีวิคชนรถตู้ที่มาจากธรรมศาสตร์บนทางด่วน ที่ทุกวันนี้ญาติเหยื่อ 9 ครอบครัว ยังไม่ได้รับการเยียวยาชดเชย แม้เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี
คดีล่าสุดนี้ เกิดขึ้นกลางดึก 1 ตุลาคม เมื่อวัยรุ่นซิ่ง BMW ฝ่าไฟแดงที่แยกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ. นครราชสีมา ทำให้บัณฑิตหนุ่ม วัยแค่ 24 ปี ที่เพิ่งได้รับปริญญาวิศวะพร้อมเกียรตินิยม กำลังหารายได้ และจะเรียนต่อปริญญาโทในเดือนตุลาคมนี้ ต้องเสียชีวิตก่อนวันอันควร (จากรูปคือสภาพรถยุโรปพังยับ คงไม่ต้องอธิบายความเสียหายของมอเตอร์ไซค์และร่างกายของผู้เสียชีวิต)
จาก #เด็ก16ผ่าไฟแดงชนคนตาย ที่สังคมกำลังให้ความสนใจบนโซเชียล มีคนมากมายช่วยกันจับตาประเด็นต่างๆ ในคดีนี้ ว่าจะมีการดำเนินคดีอย่างเที่ยงธรรมหรือไม่ เพราะมีข้อสังเกตที่ค้างคาใจอยู่หลายประเด็น เช่น
- มีการวัดแอลกอฮอล์กจากคนขับในที่เกิดเหตุหรือไม่ ที่บอกว่าเป่าแล้วไม่เจอคือผ่านไปนานเท่าไหร่
- พ่อแม่ปล่อยปะละเลยให้เด็กเอารถออกมาใช้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กไม่มีใบขับขี่หรือไม่ และจะมีความผิดไหม
- มีการโยงว่าครอบครัวเด็กดูเหมือนจะใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพล อาจทำให้คดีไม่ได้รับความเป็นธรรมรึเปล่า แถมคนขับก็ยังเป็นเยาวชนที่เก่งกีฬา ดีกรีทีมชาติ จะมีเรื่องเส้นสายอะไรรึเปล่า
- ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีฐานะไม่ค่อยดี ดูเหมือนจะไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เพื่อแสดงความเสียใจ หรือให้การช่วยเหลือ แม้จะผ่านมาแล้วหลายวัน
- คนขับเข้าให้ปากคำวันที่ 4 ตุลาแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ ครอบครัวอ้างว่าติดสอบ ติดธุระ
ฯลฯ
จึงอยากชวนให้ทุกคนมาช่วยลงชื่อเพื่อช่วยกันจับตาต่อ สร้างกระแสเรียกร้องให้มีการสืบสวนสอบสวน ทำคดีนี้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส เพื่อให้เหยื่อและครอบครัวได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาบ้าง ให้มีการชดเชยเยียวยาอย่างเหมาะสม อย่าให้เป็นเหมือนคดีก่อนๆ
แม้การสูญเสียลูกชายอนาคตไกลจะไม่สามารถมีอะไรมาทดแทนได้ แต่อย่างน้อยพลังของพวกเราในสังคมก็จะช่วยทำให้ครอบครัวของ ‘เต้- ธนพล แก้วมูล’ รู้ว่าไม่ต้องสู้กับคดีนี้คนเดียว